ความแตกต่างของฝ้ากระ และวิธีรักษาด้วยธรรมชาติ
แชร์บทความนี้
Posted : 22 กุมภาพันธ์ 2021
ถ้าส่องกระจกมองดูใบหน้าของตัวเอง แล้วต้องเจอกับจุดด่างดำ ฝ้า-กระ ต่างๆ เชื่อว่าหลายคนคงจะรู้สึกอึดอัดขัดใจไม่น้อย เพราะฝ้า-กระนั้นเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ใบหน้าไม่กระจ่างใส แถมปล่อยทิ้งไว้ก็มีแต่จะกระจายตัวมากยิ่งขึ้นจนหลายคนถึงกับกลุ้มใจ อยากจะรักษาดูแลให้หายก็ยังไม่มั่นใจว่าไอ้ที่เราเป็นนั้นมันเรียกว่าฝ้า หรือ กระ กันแน่ จะได้ดูแลแก้ไขได้ถูกวิธี
ฝ้า-กระ คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร
ฝ้า-กระ คือริ้วรอยที่เกิดจากการที่ผิวของเราผลิตเมลานินเกินไปในบางจุด มีปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดได้มากเมื่อผิวของเราอ่อนแอลงตามวัย และเมื่อผิวต้องเผชิญแสงแดด มลภาวะต่าง ๆ ทั้งนี้ ริ้วรอยจาก ฝ้า-กระ หากไม่ดูแลหรือไม่เอาใจใส่อย่างถูกต้อง ก็มีโอกาสที่จะกระจายเป็นวงกว้างมากยิ่ง หรือมีสีเข้มมากยิ่งขึ้น ทำให้หลายๆคนที่กำลังเผชิญกับปัญหา ฝ้า-กระ รู้สึกกังวลใจ ครีมหรือสกินแคร์สำหรับลด ฝ้า-กระ จึงเป็นที่หนึ่งในครีมบำรุงผิวที่หลายคนตามหา วันนี้เราจะพาไปดูกันว่า สารสกัดตัวใหม่ๆ ที่กำลังมาแรงในวงการสกินแคร์ระดับพรีเมี่ยม สำหรับใช้ในการลดเลือน ฝ้า-กระ มีอะไรกันบ้าง หากจะมองหาครีมบำรุงผิวหรือสกินแคร์ที่ช่วยในการลด ฝ้า-กระ จะได้มองหาสารสกัดเหล่านี้ยังไงล่ะ
สามารถสั่งซื้อได้ที่
ฝ้า คืออะไร
ฝ้า จะมีลักษณะที่เป็นรอยปื้นๆ ใหญ่ๆ มีสีน้ำตาลเข้มกว่าสีผิวปกติของเรา ฝ้ามักจะเกิดบนใบหน้าเนื่องจากผิวหนังที่ใบหน้าจะมีเซลล์สร้างสีผิวมากกว่าบริเวณอื่นๆ โดยฝ้าจะเกิดได้หลายๆ ที่บนใบหน้า แต่มักจะพบเจอบริเวณโหนกแก้มและสันจมูกเพราะเป็นบริเวณที่ถูกแดดได้บ่อยที่สุด เจอในคนที่มีผิวขาวมากกว่าคนผิวคล้ำ และฝ้าเจอในผู้หญิงมากกว่าผู้ชายด้วย โดยทั่วไปแล้วสามารถแบ่งฝ้าออกได้เป็น 2 ชนิดคือ ฝ้าชนิดตื้นและฝ้าชนิดลึก ความแตกต่างของฝ้าทั้ง 2 ชนิดนี้ก็คือ ระดับความลึกของเม็ดสี ฝ้าชนิดลึกจะมีเม็ดสีที่มีความผิดปกติอยู่ที่ชั้นหนังแท้ ทำให้สีของฝ้ามีความเข้มมากกว่าฝ้าชนิดตื้นและรักษาให้จางลงได้ยากกว่า เนื่องจากจุดกำเนิดสีผิวอยู่ลึกกว่า ในขณะที่ฝ้าชนิดตื้นเม็ดสีที่มีความผิดปกติจะอยู่ที่ชั้นหนังกำพร้าเท่านั้น ทำให้ความเข้มของเม็ดสีมีน้อยกว่ารักษาให้จางลงได้ง่ายกว่า
กระ คืออะไร
กระ คือ จุดสีน้ำตาลขนาดเล็ก ที่กระจายตัวอยู่ตามผิวหนังส่วนต่างๆ ของร่างกาย จุดสีน้ำตาลขนาดจิ๋วๆ เหล่านี้ สามารถเกิดขึ้นได้บนผิวหนังทุกบริเวณ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า หรือส่วนต่างๆ ของร่างกาย และสามารถเกิดได้กับผู้คนทุกเพศ ทุกวัย และทุกเชื้อชาติเพียงแต่สามารถพบเห็นได้มากในคนผิวขาว กระมีด้วยกัน 3 ประเภทคือ กระทั่วไปหรือกระธรรมดา โดยส่วนใหญ่จะพบได้มากในผู้ที่มีสีผิวค่อนข้างขาวและในครอบครัวที่มีพันธุกรรมของกระชนิดนี้ กระชนิดนี้จะมีสีอ่อนเพราะมีจุดกำเนิดที่ชั้นบนของผิวหรือชั้นหนังกำพร้า แบบที่ 2 คือกระแสงแดด มีจุดกำเนิดที่ชั้นบนของผิวหรือชั้นหนังกำพร้าเช่นกัน แต่มีสาเหตุหลักจากแสงแดด ทำให้กระมีสีเข้มกว่าแบบธรรมดา และลดการเกิดได้จากการปกป้องผิวจากแสงแดด ส่วนแบบที่ 3 คือกระเนื้อ จะมีลักษณะเป็นสีเข้มๆ มีเนื้อนูนเกิดขึ้นมาจากผิวหนัง แต่ไม่เป็นอันตราย
กระทั่วไป
กระแดด
ความเหมือนและความแตกต่างของ ฝ้า-กระ
ความแตกต่างกันของ อยู่ที่ลักษณะของผิวที่เกิดปัญหา กระจะมีรูปร่างเป็นจุดเล็กๆ กระจายบริเวณไปทั่ว ส่วนฝ้าจะมีลักษณะเป็นปื้นดำที่ใหญ่กว่า แต่ส่วนที่เหมือนกันของ ฝ้า-กระก็คือ สาเหตุการเกิด ที่ส่วนใหญ่มักเกิดจากรังสี UVA / UVB ที่เข้ามาทำร้ายผิวโดยตรงเป็นเวลานานๆ ทำให้เม็ดสีเมลานินมีการเกาะตัวเป็นกระจุก จนทำให้เกิดจุดกระและรอยฝ้า ขึ้นบนใบหน้า ซึ่งทั้ง ฝ้า-กระ นี้นอกจากแสงแดดแล้ว ยังสามารถเกิดขึ้นได้จากฮอร์โมนที่ผิดปกติภายในร่างกาย มลภาวะที่ทำให้ผิวบอบบางอ่อนแอ การใช้สกินแคร์คุณภาพต่ำ อีกด้วย ดังนั้น การดูแลใส่ใจ ปกป้องผิวจากปัญหา ฝ้า-กระ จึงสามารถทำได้ในรูปแบบเดียวกัน
ฝ้าลึก
กระทั่วไป
เทคนิคดูแลเอาใจใส่ให้ผิวไกลจาก ฝ้า-กระ
- ปกป้องผิวจากรังสี UV
แสงแดดเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำร้ายผิวหน้าให้เกิด ฝ้า-กระ เพราะแสงแดดจะปล่อยรังสี UVA และ UVB มาทำร้ายผิว ทำให้ร่างกายเร่งการผลิตเมลานินจนเกิดความผิดปกติเป็นริ้วรอย จุดด่างดำ และฝ้า-กระ ดังนั้น อยากปกป้องผิวจาก ฝ้า-กระ ต้องเริ่มต้นด้วยการปกป้องผิวจากแสงแดด ใช้ครีมกันแดดที่ป้องกันทั้ง UVA และ UVB อย่างสม่ำเสมอ
- เพิ่มความแข็งแรงให้กับผิวด้วยสกินแคร์คุณภาพดี
นอกจากการปกป้องผิวจากแสงแดดแล้ว ต้องทำให้ผิวของเรามีความแข็งแรง เพื่อให้สามารถที่จะผลัดเซลล์ผิวได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้น จึงควรเลือกใช้สกินแคร์ที่มีคุณภาพ ได้รับการรับรองเรื่องมาตรฐานและความปลอดภัย หลีกเลี่ยงการใช้สกินแคร์ที่ทำให้ผิวบอบบาง หรือมีสารสกัดที่ทำให้ผิวบอบบาง เพราะเมื่อผิวของเราบางลง จะถูกทำร้ายจากแสงแดดและสิ่งเร้าอื่นๆได้ง่าย ทำให้เกิด ฝ้า-กระ ได้ง่าย
Melasma Set เซตลดฝ้ากระ
เซตครีมลดฝ้า กระ มีส่วนผสมของ อัลฟ่า อาร์บูติน กรดโกจิก วิตามินบี 3 กลูต้าไธโอน สารสกัดธรรมชาติที่ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้สีผิวสม่ำเสมอและกระจ่างขึ้น และยังช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอีกด้วย
- ใช้ครีมบำรุงผิวเพื่อการลดเลือนริ้วรอย ฝ้า-กระ
ครีมบำรุงผิว ต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพและปัญหาของผิวพรรณ ถ้าคุณเป็นคนที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดฝ้า-กระ ได้ง่าย เช่น คนในครอบครัวมี ฝ้า-กระ ทำงานที่ต้องได้รับความร้อนจากแสงแดด หรือแสงคอมพิวเตอร์บ่อยๆ มีอายุที่เพิ่มมากขึ้น ก็ควรที่จะเลือกสกินแคร์หรือครีมบำรุงผิวที่ช่วยในการลดเลือนริ้วรอยฝ้ากระมาใช้ เพื่อเป็นการชะลอเวลาในการเกิดฝ้า-กระ ทำให้ ฝ้า-กระที่เกิดขึ้นแล้วจางลง
สารสกัดตัวท็อปที่ครีมลด ฝ้า–กระ ต้องมี
- สารสกัดอาร์บูติน
สารสกัดตัวแรกที่ครีมรักษา ลดเลือนรอย ฝ้า-กระระดับพรีเมี่ยมไม่ควรมองข้า คือสารสกัด อาร์บูติน (Arbutin) ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hydroquinone-beta-D-glucoside อาร์บูติน เป็นสารสกัดที่ได้จากพืชธรรมชาติ ซึ่งพบได้จากส่วนต่าง ๆ ของพืชหลายชนิด เช่น แบเบอร์รี่ ,บลูเบอร์รี่, แครนเบอร์รี่, มัลเบอร์รี่, ลูกแพร์ เป็นต้น พืชที่สกัดอาร์บูตินได้ส่วนมากเป็นพืชเมืองหนาว ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตอาร์บูตินที่ดีที่สุดในโลกคือประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สารสกัดตัวนี้จึงเป็นสารสกัดนำเข้าที่ราคาสูง และนิยมใช้ในสกินแคร์ของเคาท์เตอร์แบรนด์ต่าง ๆ ในส่วนของคุณสมบัติในการทำงาน อาร์บูตินสามารถช่วยลด ฝ้า-กระ ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นตัวกระตุ้นเซลล์ผิวให้ยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวหมองคล้ำหรือเป็นจุดกำเนิดของฝ้า-กระ นอกจากนั้น ยังทำหน้าที่ในการยับยั้งกระบวนการ Oxidation หรือการสร้างอนุมูลอิสระอีกด้วย ทำให้ช่วยในการลดเลือนรอยด่างดำที่มีอยู่เดิมให้จางหายลงไป ผิวเนียนแลดูกระจ่างใสขึ้น
สินค้าแนะนำ
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
ฝ้ารักษายาก แต่รักษาได้
ในปัจจุบันการเลือกใช้ครีมรักษาฝ้า เป็นทางเลือกในการรักษาฝ้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด...อ่านต่อ
รักษาฝ้า หน้าเนียนใส ไร้ปัญหาผิว
เชื่อว่าสาวๆ ทุกคน เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยเลข 3 เลข 4 ก็มักจะมีฝ้ามาเยือนบนใบหน้า...อ่านต่อ
กระ คืออะไร ?
“กระ” คือจุดสีน้ำตาลขนาดเล็ก ที่กระจายตัวอยู่ตามผิวหนังส่วนต่างๆ ของร่างกาย...อ่านต่อ
- สารสกัดกรดโกจิก
สารสกัดกรดโคจิก หรือ Kojic Acid เป็นสารสกัดที่หลายคนคงจะคุ้นชื่อกันมาก เพราะนิยมใช้ในผลิตภัณฑ์ประเภทไวท์เทนนิ่งอย่างแพร่หลาย สารสกัด Kojic Acid นั้น เป็นสารสกัดที่ผลิตได้จากพืชธรรมชาติโดยได้มาจากกระบวนการหมักกลูโคสกับเชื้อรา Aspergillus โดย Kojic Acid มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในการยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินโดยไม่ทำให้ผิวบางลงหรือไวต่อแสง จึงช่วยในการลดการเกิดใหม่ของรอยจุดด่างดำฝ้า-กระ ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีมีคุณสมบัติในการป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระ จึงช่วยชะลอวัยลดการเกิดริ้วรอยต่าง ๆได้ดี และทำให้ผิวดูสดชื่น กระจ่างใสอีกด้วย
- วิตามินบี 3
วิตามินบี 3 หรือ ไนอะซิน เป็นวิตามินที่มีคุณสมบัติอย่างโดดเด่นในด้านความงาม โดยเฉพาะในเรื่องความกระจ่างใสและการลด ฝ้า-กระ เพราะวิตามินบี 3 นั้น มีคุณสมบัติในการช่วยกระจายเม็ดสีผิวหรือเมลานิน โดยทำให้การกระจายเม็ดสีใต้ผิวที่จับตัวกันเป็นกลุ่มก้อนเข้มๆ กระจายออกไปด้านล่างของชั้นผิว จึงทำให้ ฝ้า-กระ จางลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการเร่งการผลัดเซลส์ผิวทำให้ผิวกระจ่างใส และช่วยในการเพิ่มการสังเคราะห์คอลลาเจนและอีลาสตินชนิดที่ช่วยเพิ่มความกระชับแก่ชั้นผิว ประโยชน์ของวิตามินบี 3 ในด้านความงาม จึงช่วยทั้งในเรื่องของการลดทำให้ฝ้า-กระ เดิมจางลงอย่าง กระ ใหม่ รวดเร็วและเห็นได้ชัด ช่วยลดการเกิดใหม่ของฝ้า ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่น มีความชุ่มชื้น ป้องกันการสูญเสียน้ำ และช่วยกระตุ้นการสร้างกรดไขมันอิสระและเซราไมด์ ซึ่งเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวในชั้นหนังแท้ ทำให้ผิวจึงแข็งแรงขึ้น
การบำรุงรักษาผิวเพื่อลดเลือน ฝ้า-กระ ส่วนที่สำคัญอย่างยิ่งคือการบำรุงผิวให้มีความแข็งแรงไปพร้อม ๆกับการรักษาและลดเลือน ฝ้า-กระ โดยกลไกสำคัญในการรักษาฝ้า-กระ คือการยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน พร้อม ๆกับการกระจายเม็ดสีให้จางลง และค่อยๆผลัดเซลล์ผิวใหม่เพื่อเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว ครีมบำรุงผิวที่ใช้ จึงต้องมีคุณสมบัติที่ครบถ้วน ทั้งการลดรอยฝ้า-กระ เดิมให้จางลง การลดการเกิดใหม่ และการบำรุงผิวให้แข็งแรง โดยไม่ทำร้ายหรือทำลายผิวให้บางลง ดังนั้น หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาฝ้า-กระ อย่ารีบร้อนที่จะใช้ครีมที่ให้ผลไว จนลืมพิจารณาว่าในครีมนั้นๆ ที่สารสกัดที่ก่อให้เกิดอันตรายในระยะยาวกับผิวหรือเปล่า ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน มีสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยรักษาลดเลือนริ้วรอยโดยไม่ทำให้ผิวบอบบางไวต่อแสง และที่สำคัญต้องไม่ละเลยที่จะปกป้องผิวจากแสงแดด ซึ่งเป็นตัวการที่ทำร้ายทำลายผิว เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดฝ้า-กระ เพียงเท่านี้รับรองว่าปัญหา ฝ้า-กระ จะไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่กวนใจคุณอีกต่อไป
ฝ้า-กระ เป็นริ้วรอยที่อาจจะเกิดขึ้นได้เมื่อผิวต้องเผชิญแสงแดด มลภาวะต่างๆ และสามารถเกิดขึ้นได้จากการที่ผิวอ่อนแอลงตามช่วงวัยของคนเรา การดูแลป้องกันจึงทำได้โดยการบำรุงผิวให้มีความแข็งแรง ปกป้องผิวจากความเสี่ยงต่างๆ ใครที่กำลังกังวลกับการเกิดของ ฝ้า-กระ อย่าลืมที่จะหาสกินแคร์คุณภาพดีๆ มาใช้ ดูที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งการสร้างเม็ดสี มีตัวช่วยในการฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใสจากภายใน สร้างความชุ่มชื้นและบำรุงผิวให้แข็งแรง เพียงเท่านี้ก็มีผิวสวยสุขภาพดีห่างไกลจากฝ้า-กระ ได้แล้วล่ะ